2)เพื่อนำไปเก็บของเหลวอาทิเช่นน้ำมัน โดยปรกติถังเหล็กสามารถเก็บได้ทั้งลมและของเหลวบางชนิดโดยปรกติจะเน้นใช้ถังเหล็กเพื่อเก็บลมและเก็บน้ำมันสำหรับรถบรรทุกพ่วง ถังเหล็กของเราสามารถออกแบบให้มีขนาดตามความต้องการตั้งแต่2ถึงกว่า100ลิตรสำหรับใช้ในงานรถบรรทุกพ่วง สามารถรองรับดันได้เช่นเดียวกับถังอลูมิเนียมแรงดันตัวถังตั้งแต่ 1-15บาร์หรือมากน้อยกว่านั้นขึ้นกับการออกแบบความหนา
วัสดุที่ใช้ทำถังสำหรับติดตั้งกับรถบรรทุกพ่วงประกอบไปด้วยวัสดุหลัก2ชนิดได้แก่
1) วัสดุเหล็กชนิดต่างๆ(Steel)ซึ่งคือวัสดุที่ประกอบไปด้วยเหล็ก(Iron)และคาร์บอน(Carbon)ในสัดส่วนต่างๆกันเช่น Carbon Steel Tank และ SS400 Air Tank ล้วนแต่เป็นเหล็กคุณภาพเหมาะสำหรับงานลมและเก็บน้ำมันหรือสารที่ไม่ก่อสนิม ข้อเด่นของถังลมเหล็กคือมีความคงทนแต่น้ำหนักจะมากกว่าถังอลูมิเนียม
2) วัสดุอลูมิเนียม(Aluminum) โดยปรกติแล้ววัสดุสองตัวนี้จะเหมาะกับงานถังแรงดันด้วยคุณสมบัติด้านความคงทน ความแข็งแรง อย่างไรก็ดีความแตกต่างจะอยู่ที่คุณสมบัติด้านความยืดหยุ่นและการเกิดสนิมโดยถังเหล็กจะมีความไวต่อการเกิดสนิมมากกว่ากรณีการใช้งานที่มีความชื้นหรือน้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง จะแตกต่างจากถังที่วัสดุทำจากอลูมิเนียมโดยวัสดุอลูมิเนียมจะมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดสนิมได้ดีกว่า
โดยปรกติแล้วสำหรับงานถังพักลมที่ใช้งานในรถบรรทุกพ่วงจะใช้แรงอยู่ในช่วง 6-8บาร์ อย่างไรก็ดีถังของเราสามารถผลิตให้รองรับแรงดันได้ในช่วงที่ค่อนข้างกว้างโดยปรกติอยู่ที่ประมาณ 1-10บาร์ ขึ้นกับความต้องการของผู้ใช้งานและความหนาของตัวถัง สามารถทำให้รองรับแรงดันได้มากถึง 15บาร์เช่นกัน
การทดสอบตัวถังเป็นสิ่งสำคัญด้วยมาตรฐานด้านความปลอดภัยโดยปรกติแล้วถังจะผ่านการทดสอบแบบ
Hydrostatic Test ซึ่งเป็นการอัดน้ำซึ่งมีแรงดันเข้าไปในตัวถังซึ่งถังปรกติจะทดสอบที่แรงดันสูงสุดหรือ
Max. pressure ที่ต่างกันออกไปเช่นทดสอบที่ 1.2Mpa (12Bar)
1.5Mpa (15 bar) 2Mpa (20Bar) ขึ้นอยู่กับความหนาตัวถังและแรงดันที่ใช้งาน
เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าถังจะสามารถใช้งานได้ที่แรงดันตามที่กำหนดและใช้ได้อย่างปลอดภัย
โดยการทดสอบอิงมาตรฐานทั้งระดับสากลควบคู่กับมาตรฐานของเราเองมั่นใจการใช้งานถังลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปราศจากรอยรั่วจากแรงดัน
ตัวอย่างวีดีโอด้านล่างนี้เป็นการทดสอบแรงดันถังลมอลูมิเนียมของเรา